หากน้องหมาของเพื่อนๆ เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก อายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป ชอบไอแห้งๆ อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเวลากลางคืนและเวลาตื่นเต้น ชอบหอบแม้ขณะนั่งหรือนอนเฉยๆ ออกกำลังกายหรือทำอะไรที่ใช้แรงนิดหน่อยก็เหนื่อยง่าย อยู่ดีๆ ท้องก็กางขยายขึ้นมาซะอย่างนั้น หรือบางครั้งก็แสดงอาการหน้ามืดเป็นลมล้มทั้งยืน อาการแบบนี้ อาจกำลังบอกให้เพื่อนๆ รู้ว่า น้องหมาอาจกำลังป่วยด้วย “โรคลิ้นหัวใจเสื่อม” เข้าให้แล้วครับ
หัวใจก็เหมือนเครื่องปั้มน้ำครับ มีลิ้นหัวใจเป็นวาล์วเปิดปิด ช่วยให้ทิศทางของเลือดไหลเป็นทางเดียวกัน พอ "วาล์วเสื่อม" น้ำก็ไหลมั่วซั่วไม่เป็นทิศทาง เกิดการไหลย้อนกลับ ไปคั่งตามปอดบ้าง ตามหลอดเลือดต่างๆ ในร่างกายบ้าง แล้วก็คั่งในหัวใจห้องต่างๆ เราจึงพบว่าน้องหมาจะมี “หัวใจโต (Cardiomegaly)” แต่จะโตห้องไหน ก็ต้องดูว่าวาล์วไหนเสื่อม ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็น ลิ้นหัวใจไมทรัลเสื่อม (Mitral valve insufficiency) ซึ่งลิ้นหัวใจนี้ จะกั้นระหว่างหัวใจห้องบนและล่างข้างซ้าย จึงทำให้หัวใจข้างซ้ายโตหรืออาจจะโตทั้งสองข้าง (ทั้งหัวใจ) เลยก็ได้ครับ
เลือดที่คั่งอยู่ในปอด ทำให้เกิดแรงดันหลอดเลือดในปอดสูงขึ้น เมื่อมีแรงดันสูงนานๆ ก็ทำให้เกิดการรั่วออกมาสะสมอยู่ตามช่องว่างเซลล์และเนื้อเยื่อปอดได้ ที่เราเรียกว่า น้ำท่วมปอดหรือปอดบวมน้ำ (Pulmonary edema) ครับ ซึ่งพอน้ำท่วมปอด พื้นที่ปอดก็เลยน้อยลง จึงทำให้น้องหมาหายใจลำบาก เหนื่อยง่าย อ้าปากหายใจ บางทีก็มีน้ำมูกใสๆ หรือไอแบบมีเสมหะได้ หากไปคั่งในตับก็อาจพบ ตับโต (Hepatomegaly) ได้ และหากคั่งตามหลอดเลือดในช่องท้องนานๆ จนเกิดแรงดันในหลอดเลือดสูงขึ้น น้ำก็อาจรั่วออกมาสะสมในช่องท้องได้ เกิดเป็นท้องมานหรือท้องกาง (Ascites) ตามมาครับ
แต่แม้วาล์วจะเสื่อมแค่ไหน เครื่องปั้มน้ำเครื่องนี้ก็ยังคงต้องทำงานต่อไป แต่จะทำงานหนักขึ้น โดยเพิ่มการปั้มให้เร็วขึ้น นั่นเป็นเหตุที่ว่า เป็นโรคหัวใจทำไมถึง “หัวใจเต้นเร็ว (Tachycardia)” ก็เพื่อให้ได้น้ำหรือเลือดไปใช้ประโยชน์ได้เพียงพอ แต่จริงๆ แล้ว ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี เมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ น้องหมาจึง เป็นลมหน้ามืด (Syncope) ได้
อวัยวะอย่างไตก็ต้องการน้ำมาใช้เช่นกัน แต่ที่ไตมีความพิเศษ คือ มีตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันน้ำอยู่ พอน้ำไปถึงไตน้อยอย่างนี้ ตัวเซ็นเซอร์ก็สั่งการเลยครับ เพิ่มแรงดันช่วยเสริมด่วน นั่นจึงเป็นเหตุผลตามมาว่า เป็นโรคหัวใจแล้วทำไมต้องมี “ความดันโลหิตสูง (Hypertension)”
ส่วน “อาการไอ” เป็นผลมาจากการที่หัวใจห้องบนซ้ายโต ส่งผลให้หลอดลมฝั่งซ้ายยกตัวขึ้น จึงกระตุ้นให้เกิดอาการไอ น้องหมาจึง ไอแบบเรื้อรัง (Chronic Cough) นั่นเอง เห็นมั้ยครับ แค่วาล์วเสียตัวเดียวแท้ๆ ทำให้ชีวิตยุ่งเหยินอะไรได้ถึงเพียงนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น